ตาย (Death)
สารบัญหลัก (Content)
 

 

เทศนาโดย อ.สุเมธ วันอาทิตย์ที่ 12 กันยายน 2004

 
 
 
 

ตาย มี 3 แบบ (3 kinds of death) เรื่องต่อไปนี้นักปรัชญาฟังแล้วก็จะบอกว่า ไม่ได้ความ , นักศาสนศาสตร์ หรือ ผู้เทศนา หรือ ผู้เชื่อฟังแล้ว ก็อาจจะบอกว่า เทศน์ผิด , แต่เรื่องนี้เป็นจริง ตามพระคัมภีร์

อ่าน มธ 8:14-22

  • พระเยซูทรงรักษาแม่ยายของเปโตร (มก.๑:๒๙-๓๑; ลก.๔:๓๘-๓๙)
  • ๑๔. ครั้นพระเยซูเสด็จเข้าไปในเรือนของเปโตร ก็ทรงเห็นแม่ยายของเปโตรนอนป่วยจับไข้อยู่ ๑๕. พอพระองค์ทรงจับมือนาง ความไข้ก็หาย นางจึงลุกขึ้นปรนนิบัติพระองค์
  • พระเยซูทรงรักษาคนเวลาค่ำ (มก.๑:๓๒-๓๔; ลก.๔:๔๐-๔๑)
  • ๑๖. พอค่ำลง เขาพาคนผีเข้าสิงเป็นอันมากมาหาพระองค์ พระองค์ก็ทรงขับผีออกด้วยด้วยพระดำรัส และบรรดาคนเจ็บป่วยทั้งหลายนั้น พระองค์ก็ได้ทรงรักษาให้หาย ๑๗. ทั้งนี้เพื่อจะให้สำเร็จตามพระพจนะ โดยอิสยาห์ผู้เผยพระวจนะที่ว่า ท่านได้แบกความเจ็บไข้ของเราทั้งหลาย และหอบโรคของเราไป
  • ผู้ที่ใคร่จะเป็นศิษย์ของพระเยซู (ลก.๙:๕๗-๖๒)
  • ๑๘. ครั้นพระเยซูทรงเห็นประชาชนเป็นอันมากมาล้อมพระองค์ไว้ พระองค์จึงตรัสสั่งให้ข้ามฟากไป ๑๙. ขณะนั้น มีธรรมาจารย์คนหนึ่ง มาหาพระองค์ทูลว่า "อาจารย์เจ้าข้า ท่านไปทางไหน ข้าพเจ้าจะตามท่านไปทางนั้น" ๒๐. พระเยซูจึงตรัสว่า "หมาจิ้งจอกยังมีโพรง และนกในอากาศก็ยังมีรัง แต่บุตรมนุษย์ไม่มีที่ที่จะวางศีรษะ" ๒๑. อีกคนหนึ่งในพวกศิษย์ของพระองค์มาทูลพระองค์ว่า "พระองค์เจ้าข้า ขอทรงโปรดให้ข้าพระองค์ ไปฝังศพบิดาข้าพระองค์ก่อน" ๒๒. พระเยซูจึงตรัสกับเขาว่า "จงตามเรามาเถิด ปล่อยให้คนตายฝังคนตายของเขาเองเถิด" (Follow me; and let the dead bury their dead. )

พอพระองค์จับมือนางก็หาย ยังไม่ได้อธิษฐาน แต่ก็ได้หมายความว่า ผู้เชื่อทุกคนทำได้ ผู้ป่วยเข้ามานั่งในคริสตจักร ก็อาจจะหายโรคได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นสูตรเสมอไปว่า ต้องวางมืออธิษฐาน

ผู้เชื่อ รวมถึงธรรมาจารย์ และ สาวกหรือศิษย์ เป็นการอัศจรรย์ เกิดความเชื่อ อยากจะติดตาม แสวงหาพระเจ้า แต่ก็พยายามมีข้อแม้กับตัวเอง เหมือนคริสเตียนปัจจุบันนี้ ศิษย์บอกว่าจะขอไปฝังพ่อก่อน พระคัมภีร์ที่มีคำอธิบายบางฉบับ อธิบายว่า ในวันนั้น ไม่มีคนติดตามพระเยซูไปเลย แม้แต่คนเดียว พระเยซูตอบว่า "ให้คนตายฝังคนตายเถิด" คนตายคำแรก หมายถึง คนตายฝ่ายวิญญาณ , คนตายคำที่ 2 หมายถึง คนตายฝ่ายร่างกายหรือเนื้อหนัง

ตาย คนทั่วไป รู้แต่ว่ามีการตายอย่างเดียว คือร่างกายตาย ไม่มีชีวิตแล้ว พืชตาย คือพืชไม่มีชีวิตแล้ว ก้อนหินใช้คำว่าตายไม่ได้

แต่คำว่า ตาย ในพระคัมภีร์ หมายถึง การแยกออก

1.ตายจากร่างกาย (Physical Death)

ยก 2:26 For as the body without spirit is dead (ร่างกายที่ปราศจากวิญญาณ คือ ตาย) เป็นการแยกตัวจริง กับ ร่างกาย ตัวจริงของเราคือวิญญาณของเรา

2.ตายฝ่ายวิญญาณ (Spiritual Death) เป็นการแยกจากพระเจ้าเพราะบาป

  • อฟ 2:1 , 5 ....ตายแล้วโดยการละเมิดและการบาป (dead in trespasses and sins)
    • ข้อ 5 ..ตายไปแล้วในการบาป (dead in sin)
  • อสย 59:2 ความบาปแยกเจ้ากับพระเจ้า (your iniquities have separated between you and your God.)
  • มธ 8:22 ..ให้คนตายฝังคนตาย...(let the dead bury their dead) คนตายฝ่ายวิญญาณฝังคนตายฝ่ายร่างกาย
  • คส 2:13 ...ตายแล้วด้วยการละเมิด.... (...being dead in your sins..)
  • 1ทธ 5:6 ..ตายทั้งเป็น... (is dead while she liveth)

3.ตายนิรันดร์ หรือ ตายครั้งที่สอง (Eternal death or Second death)

เป็นการแยกจากพระเจ้าครั้งที่สอง และ อย่างนิรันดร์ และ อยู่ในบึงไฟ (the second and eternal separation from Gop in the lake of fire) เขาตายครั้งที่ 2 เพราะว่าเขายังคงเลือกที่จะแยกจากพระเจ้าในการบาป เราเรียกว่า การตายครั้งที่ 2 (second death) หรือ แยกจากพระเจ้าครั้งที่ 2

  • วว 2:11 ...ความตายครั้งที่ 2 ... (second death)
  • วว 20:14 บึงไฟนี่แหละเป็นความตายครั้งที่สอง (And death and hell were cast into the lake of fire. This is the second death)
  • วว 21:8 ... ในบึงไฟและกำมะถันที่กำลังไหม้อยู่นั้น นั่นคือความตายครั้งที่สอง

ขอบพระคุณพระเจ้า ที่ทรงเรียกให้เราเข้ามาเข้าส่วนกับพระองค์ พ้นจากความตายฝ่ายวิญญาณ และ ความตายครั้งที่ 2