พระพรจงมีแด่ (Blessed unto)
สารบัญหลัก (Content)
 

 

เทศนาโดย อ.สุเมธ วันอาทิตย์ที่ 8 มกราคม 2006

 
 
 
 

ใช้หนังสือพระคัมภีร์ สดุดี , สุภาษิต และ อิสยาห์ พูดในหัวข้อเรื่อง พระพรจงมีแด่.... (Blessed unto they that...) หรือ พระพรจงมีแด่ผู้ที่.... หรือ blessed unto whom ...

สดุดี บทที่ 1 ข้อที่ 1 ความสุขเป็นของบุคคล ผู้ไม่ดำเนินตามคำแนะนำของคนอธรรม หรือยืนอยู่ในทางของคนบาป หรือนั่งอยู่ในที่นั่งของคนที่ชอบเยาะเย้ย ๒. แต่ความปีติยินดีของผู้นั้น อยู่ในพระธรรมของพระเจ้า เขาภาวนาพระธรรมของพระองค์ ทั้งกลางวันและกลางคืน ๓. เขาเป็นเช่นต้นไม้ที่ปลูกไว้ริมธารน้ำ ซึ่งเกิดผลตามฤดูกาล และใบก็ไม่เหี่ยวแห้ง การทุกอย่างซึ่งเขากระทำก็จำเริญขึ้น ๔. คนอธรรมไม่เป็นเช่นนั้น แต่เป็นเหมือนแกลบซึ่งลมพัดกระจายไป ๕. เหตุฉะนั้น คนอธรรมจะไม่ยั่งยืนอยู่ได้ เมื่อถึงคราวพระเจ้าทรงพิพากษา หรือคนบาปไม่ยืนยงในที่ชุมนุมของคนชอบธรรม ๖. เพราะพระเจ้าทรงทราบทางของคนชอบธรรม แต่ทางของคนอธรรมจะพินาศไป

สดุดี บทที่ 2 ๑. เหตุใดบรรดาประชาชาติจึงคิดกบฏ ทำไมชนชาติทั้งหลายปองร้ายกันเปล่าๆ ๒. บรรดากษัตริย์แห่งแผ่นดินโลก ตั้งตนเองขึ้น และนักปกครองปรึกษากัน ต่อสู้พระเจ้า และผู้รับการเจิมของพระองค์ กล่าวว่า ๓. "ให้เราระเบิดสายแอกให้ขาดสะบั้น และขจัดบังเหียนของเขาให้พ้นจากเรา" ๔. พระองค์ผู้ประทับในสวรรค์ ทรงพระสรวล พระเจ้าทรงเย้ยหยันเขาเหล่านั้น ๕. แล้วพระองค์ตรัสกับเขาทั้งหลายด้วยพระพิโรธ และกระทำให้เขาสยดสยองด้วยความกริ้วของพระองค์ ตรัสว่า ๖. "เราได้ตั้งกษัตริย์ของเราไว้แล้ว บนศิโยน ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของเรา" ๗. ข้าพเจ้าจะบอกถึงพระดำรัสของพระเจ้า พระองค์รับสั่งกับข้าพเจ้าว่า "เจ้าเป็นบุตรของเรา วันนี้เราได้ให้กำเนิดแก่เจ้าแล้ว ๘. จงขอจากเราเถิด และเราจะมอบบรรดาประชาชาติให้เป็นมรดกของเจ้า ตลอดทั้งแผ่นดินโลกให้เป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้า ๙. เจ้าจะตีเขาให้แตกด้วยกระบองเหล็ก และฟาดให้แหลกเป็นชิ้นๆ ดุจภาชนะของช่างปั้นหม้อ" ๑๐. เพราะฉะนั้น ข้าแต่กษัตริย์ทั้งหลาย จงฉลาดเถิด ข้าแต่นักปกครองแห่งแผ่นดินโลก จงรับคำเตือนเถิด ๑๑. จงปรนนิบัติพระเจ้าด้วยความยำเกรง และจงเกษมเปรมปรีดิ์จนเนื้อเต้น ๑๒. จงนมัสการพระองค์ด้วยใจจริง เกลือกว่าพระองค์จะทรงพระพิโรธ และเจ้าต้องพินาศจากทางนั้น เพราะพระพิโรธของพระองค์นั้น จุดให้ลุกได้รวดเร็ว ความสุขเป็นของคนทั้งหลายผู้เข้ามาลี้ภัยในพระองค์

Psalms 1:1 Blessed is the man that walketh not in the counsel of the ungodly, nor standeth in the way of sinners, nor sitteth in the seat of the scornful. 1:2 But his delight is in the law of the LORD; and in his law doth he meditate day and night. 1:3 And he shall be like a tree planted by the rivers of water, that bringeth forth his fruit in his season; his leaf also shall not wither; and whatsoever he doeth shall prosper. 1:4 The ungodly are not so: but are like the chaff which the wind driveth away. 1:5 Therefore the ungodly shall not stand in the judgment, nor sinners in the congregation of the righteous. 1:6 For the LORD knoweth the way of the righteous: but the way of the ungodly shall perish.

Psalms 2:1 Why do the heathen rage, and the people imagine a vain thing? 2:2 The kings of the earth set themselves, and the rulers take counsel together, against the LORD, and against his anointed, saying, 2:3 Let us break their bands asunder, and cast away their cords from us. 2:4 He that sitteth in the heavens shall laugh: the LORD shall have them in derision. 2:5 Then shall he speak unto them in his wrath, and vex them in his sore displeasure. 2:6 Yet have I set my king upon my holy hill of Zion. 2:7 I will declare the decree: the LORD hath said unto me, Thou art my Son; this day have I begotten thee. 2:8 Ask of me, and I shall give thee the heathen for thine inheritance, and the uttermost parts of the earth for thy possession. 2:9 Thou shalt break them with a rod of iron; thou shalt dash them in pieces like a potter's vessel. 2:10 Be wise now therefore, O ye kings: be instructed, ye judges of the earth. 2:11 Serve the LORD with fear, and rejoice with trembling. 2:12 Kiss the Son, lest he be angry, and ye perish from the way, when his wrath is kindled but a little. Blessed are all they that put their trust in him.

พระวจนะบางตอนเขียนว่า พระเจ้าทรงกริ้วช้า แต่พระวจนะของพระเจ้าตอนนี้ บอกว่า พระพิโรธของพระองค์นั้น จุดให้ลุกได้รวดเร็ว บางคนบอกว่าไม่เจ้าโกรธหรอก เดี๋ยวค่อยหันกลับมา (ทำเรื่องไม่ดีไว้กับพระเจ้า) ผมจึงต้องยืนยันว่า พระเจ้ามีถ้อยคำนี้ไว้ บางคนก็จำแต่เรื่องที่ตนเอง หลบหลีกได้ แต่พระคำตอนที่พระเจ้าบอกว่าจะลงโทษ ตีสอน ไม่ยอมจำ หรือทำเป็นจำไม่ได้ ไม่ค่อยพูด พอถึงเวลาที่พระเจ้าจะลงโทษ ก็พูดว่านี่เป็นการกระทำของมาร

พระพรจงมีแต่ผู้ที่ประพฤติ 16 ประการ จะได้รับพระพร คือ ผู้ที่ ..... ประชากรของพระองค์ที่ประพฤติอยู่ใน 16 ประการนี้ ที่ได้ปฏิบัติต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า จะได้รับพร ไม่ได้หมายความว่า จะต้องปฏิบัติให้ครบทั้ง 16 สิบหกประการนี้มาจากหนังสือ สดุดี ซึ่งรวมทั้งหมดแล้วอาจจะมีมากกว่านี้ และหมายถึงผู้ประพฤติที่เป็นคริสเตียน ไม่ได้หมายถึงผู้ยังไม่เชื่อ กำลังพูดถึงผู้เชื่อเท่านั้น

1) ดำเนินชีวิตในทางของพระเจ้า (Live Godly)

สดุดี 1:1 ความสุขเป็นของบุคคล ผู้ไม่ดำเนินตามคำแนะนำของคนอธรรม หรือยืนอยู่ในทางของคนบาป หรือนั่งอยู่ในที่นั่งของคนที่ชอบเยาะเย้ย Blessed is the man that walketh not in the counsel of the ungodly, nor standeth in the way of sinners, nor sitteth in the seat of the scornful.

สดุดี 106:3 บรรดาผู้ที่ประพฤติความยุติธรรมก็เป็นสุข คือ ผู้ที่กระทำความชอบธรรมตลอดเวลา Psalms 106:3 Blessed are they that keep judgment, and he that doeth righteousness at all times.

อสย 56:1-2 พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า "จงรักษาความยุติธรรมไว้ และกระทำความชอบธรรม เพราะความรอดของเราใกล้จะมา และการช่วยกู้ของเราจะเผยออก ๒. ความสุขย่อมมีแก่ผู้กระทำเช่นนี้ และแก่บุตรของมนุษย์ผู้ยึดไว้มั่น ผู้รักษาวันสะบาโต ไม่เหยียดหยามวันนั้น และระวังมือของเขาจากการกระทำชั่วร้ายใดๆ" Isaiah 56:1 Thus saith the LORD, Keep ye judgment, and do justice: for my salvation is near to come, and my righteousness to be revealed. 56:2 Blessed is the man that doeth this, and the son of man that layeth hold on it; that keepeth the sabbath from polluting it, and keepeth his hand from doing any evil.

ส่วนใหญ่ ดำเนินชีวิตทั้งเรื่องครอบครัวและการงาน ในแนวความคิดของตนเอง แต่อ้างว่า นี่แหละคือแผนการของพระเจ้า วิถีทางที่พระองค์ประทานให้ ผู้รับใช้ทัดทาน ก็ด่าผู้รับใช้ พอล้มเหลวกลับมา ก็ ...

2) เชื่อถือและวางใจในพระเจ้า (Put their trust in God)

สดุดี 2:12 จงนมัสการพระองค์ด้วยใจจริง เกลือกว่าพระองค์จะทรงพระพิโรธ และเจ้าต้องพินาศจากทางนั้น เพราะพระพิโรธของพระองค์นั้น จุดให้ลุกได้รวดเร็ว ความสุขเป็นของคนทั้งหลายผู้เข้ามาลี้ภัยในพระองค์ Psalms 2:12 Kiss the Son, lest he be angry, and ye perish from the way, when his wrath is kindled but a little. Blessed are all they that put their trust in him.

สดุดี 40:4 คนใดที่วางใจในพระเจ้าก็เป็นสุข ผู้มิได้หันไปหาคนจองหอง หรือไปหาบรรดาผู้ที่หลงเจิ่นไปตามความเท็จ Psalms 40:4 Blessed is that man that maketh the LORD his trust, and respecteth not the proud, nor such as turn aside to lies.

มีความเชื่ออย่างเดียวไม่พอ ต้องประพฤติด้วย มีความเชื่ออย่างเดียว แต่อีก 15 ประการไม่มีเลย ก็ไม่มีพระพร

3) ได้รับการทรงอภัยบาป (Have sins forgiven)

สดุดี 32:1 บุคคลผู้ซึ่งได้รับอภัยการละเมิดแล้วก็เป็นสุข คือ ผู้ทรงกลบเกลื่อนบาปให้นั้น Psalms 32:1 Blessed is he whose transgression is forgiven, whose sin is covered. สำหรับในปัจจุบันเราจะพูดว่า ลบบาปแล้ว เพราะพระเยซูมาทรงรับบาปนั้นแทนหมดแล้ว เมื่อเรารับพระเยซูเป็นพระผู้ช่วยให้รอด เราก็ได้รับการอภัยบาป หรือ ลบบาป บาปการทรยศสมัยอาดัม แต่ความผิดของเรา หลังจากที่เรารับเชื่อแล้ว ก็เป็นความผิดบาปอันใหม่ การทำบาป กับ ทำความผิด ไม่เหมือนกัน ในภาษาอังกฤษ ใช้หลายคำ บางคนแค่ความผิด ก็พูดว่าเป็นบาป ทำอย่างนี้บาป ทำอย่างนี้ผิด คริสเตียนบางคนพูดว่า กินเหล้า บาป บางที่พูดว่า กินเหล้า สูบบุหรี่ บาป ในพระคัมภีร์ไม่เห็นมีบอกไว้ คำว่าบาป เป็นคำพูดที่รุนแรง ถ้าผิดมากเราก็นับว่า บาป

ได้รับการทรงอภัยบาป หมายความว่า เรารับเชื่อ ถ้าเราไปกราบไหว้รูปเคารพ เราก็ต้องรับเชื่อใหม่ เพราะถือว่า ไม่เชื่อ ก็ต้องรับเชื่อใหม่

บางคน หรือผู้รับใช้บางคนอาจบอกว่า ไม่เป็นไรน่า นิดหน่อย ผู้เชื่อใหม่ ยังไม่ค่อยรู้ พวกนี้คือพวกออมชอม พวกเห็นแก่หน้าคนอื่น น่าจะพูดอย่างนี้บ้าง "ไม่เป็นไรน่า เด็กมันก็วิ่งเล่นกับไก่เป็ด นิดๆหน่อยๆ ไม่สกปรกเท่าไรหรอก" ถ้าอีกสัปดาห์เกิดเด็กตายด้วยไข้หวัดนก จะทำอย่างไร

4) ไม่ถูกกล่าวหาว่ามีบาป (Are free from inmputed sin)

สดุดี 32:2 บุคคลซึ่งพระเจ้ามิได้ทรงถือโทษก็เป็นสุข คือ ผู้ที่ไม่มีการหลอกลวงในใจของเขา Psalms 32:2 Blessed is the man unto whom the LORD imputeth not iniquity, and in whose spirit there is no guile.

ข้อนี้น่าจะต่อเนื่องจากข้อ 3 ได้ดี พวกที่หันกลับไปไหว้รูปเคารพ จะโดยตั้งใจหรือไม่ก็ตาม จะโดยการเกรงใจผู้ใหญ่จึงต้องเข้าในพิธีทางศาสนาอื่น จะอย่างไร คุณก็ติดเชื้อโรค ถ้าคุณบอกว่า ไม่เป็นไร ก็แสดงว่าในใจคุณไม่เชื่อว่าพระเจ้ามีจริง ว่าพระเจ้ามองอยู่ (ตามข้อนี้) เมื่อคุณเชื่อเช่นนั้น ก็สรุปได้ว่า คุณไม่ใช่ผู้เชื่อ หรือ คุณไม่ใช่คริสเตียน ไม่เชื่อก็ไปให้พ้น ไม่ต้องมาฟังคำเทศนา

5) ช่วยเหลือคนยากจน (Help the poor)

สดุดี 41:1 ผู้ใดเอาใจใส่คนจน ก็เป็นสุข พระเจ้าทรงช่วยกู้เขาในวันยากลำบาก Psalms 41:1 Blessed is he that considereth the poor: the LORD will deliver him in time of trouble.

คนขัดสน กับ คนยากจน ไม่เหมือนกัน คนขับรถเบ้นท์ แต่ไม่มีเงินเติมน้ำมัน เราน่าจะเรียกว่า คนขัดสน

6) สัมพันธ์สนิทกับพระเจ้า (God fellowships)

สดุดี 65:4 สุขจริงหนอ ผู้ที่พระองค์ทรงเลือก และนำมาใกล้ ให้พำนักอยู่ในบริเวณพระนิเวศของพระองค์ ข้าพระองค์ทั้งหลายจะอิ่มเอิบด้วยความดีแห่งพระนิเวศของพระองค์ คือ พระวิหารบริสุทธิ์ของพระองค์ Psalms 65:4 Blessed is the man whom thou choosest, and causest to approach unto thee, that he may dwell in thy courts: we shall be satisfied with the goodness of thy house, even of thy holy temple.

พระพรคือมนุษย์ที่พระองค์ทรงเลือกสรร , และกระทำให้มาใกล้พระองค์ , ซึ่งเขาดำรงอยู่ในพระนิเวศน์ของพระองค์ , เราจะพอใจความดีแห่งพระนิเวศน์ของพระองค์ , และพอใจแม้กระทั่งพระวิหารอันบริสุทธิ์ของพระองค์ (แปล)

สดุดี 65:5 By terrible things in righteousness wilt thou answer us พระองค์ทรงตอบแทนความชอบของข้าพระองค์ด้วยสิ่งใหญ่อันน่าครั่นคร้าม

พระเจ้าเลือกท่านแล้ว อาจกลับพระทัยได้ ถ้าท่านประพฤติไม่ดี เช่น ซาอูล พระเจ้าเลือก แต่งตั้งแล้ว แต่ทำไม่ดี พระเจ้าเปลี่ยนใจ ไปตั้งดาวิดแทน ประการตรงนี้ขอเน้น ว่า ซาอูลขาดการเชื่อฟัง พระเจ้า และ ผู้รับใช้(ซามูเอล)

อย่าคิดว่า ตนเองเป็นคริสเตียนมานานกว่าผู้อื่น แล้วพระเจ้าจะทรงอยู่ฝ่ายตนเอง อย่าคิดว่า ตนเองเป็นคริสเตียนมาตั้งแต่เกิด แล้วพระเจ้าต้องพอพระทัย อย่าสร้างพระเจ้าขึ้นในใจตัวเอง ตามแบบของคุณ พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ แล้วใครเป็นคนสร้างพระเจ้า ก็ท่านไง เก่งกว่าพระเจ้าอีก

7) อาศัยอยู่ในพระนิเวศของพระเจ้า (Live in God's house)

สดุดี 84:4 ความสุขเป็นของบุคคลที่อาศัยในพระนิเวศของพระองค์ เขาร้องเพลงสรรเสริญพระองค์เสมอ Psalms 84:4 Blessed are they that dwell in thy house: they will be still praising thee. Selah.

ข้อนี้ อาจหมายถึงผู้รับใช้ ผู้ดูแล ในคริสเตียน ดูตัวอย่างซามูเอลซิ ข้าพเจ้าเองได้มีโอกาสนอนเฝ้าหน้าธรรมมาสแห่งพระเจ้า เป็นเวลาหลายปี อย่างไรก็ตามข้อนี้ก็อาจหมายถึงผู้เชื่อที่เข้ามานมัสการสรรเสริญพระเจ้าในคริสตจักร หรือ อาจหมายรวมถึง สถานที่ในบ้านของท่าน ที่ท่านใช้เฝ้าเดี่ยวกับพระเจ้า และใช้ที่ส่วนตัวนั้นอธิษฐานสรรเสริญพระเจ้า เปรียบเหมือนคริสตจักรบ้าน

8) กำลังของเขามาจากพระเจ้า (Draw strength from God)

สดุดี 84:5 ความสุขเป็นของบุคคลที่กำลังของเขาอยู่ในพระองค์ คือ คนที่ในใจของเขาเป็นทางหลวงไปศิโยน Psalms 84:5 Blessed is the man whose strength is in thee; in whose heart are the ways of them.

บางคน ความรู้ท่วมตัว ทำการใดๆก็ไม่สำเร็จ มีทางเดียว ต้องนำกำลังจากพระเจ้ามาใช้ พระเจ้าอาจไม่พอพระทัย ที่บางคนจะใช้ความรู้ความสามารถของโลกมาใช้

9) รู้ว่าจะนมัสการพระเจ้าอย่างไร (Know hot to worship God)

สดุดี 89:15 ชนชาติที่รู้จักโห่ร้องอย่างชื่นบานก็เป็นสุข ข้าแต่พระเจ้า คือ ผู้ที่เดินในสว่างแห่งพระพักตร์ของพระองค์ Psalms 89:15 Blessed is the people that know the joyful sound: they shall walk, O LORD, in the light of thy countenance.

ผู้เชื่อจำนวนมาก ไม่รู้เรื่องนี้ บางคนคิดว่าไม่สำคัญ บางคนก็คิดว่าตนเองทำดีที่สุดแล้ว ไม่อยากพูดให้ตรงกว่า เดี๋ยวทะเลาะกันแน่ สอนนะสอนแล้ว แต่ไม่ทำ สมุมติง่ายๆดีกว่า สมุมติว่า คุณและครอบครัวรวมทั้งเด็กๆด้วย ต้องไปเข้าเฝ้าในหลวงในพระราชวัง คุณต้องทำอย่างไรบ้าง (ขอวงเล็บเจียรไนคร่าวๆไว้ให้ท่าน คุณจะยอมให้เด็กๆของคุณวิ่งพล่านในสถานที่นั้นไหม , จะยอมให้เด็กๆของคุณส่งเสียงแทรกในสถานที่นั้นไหม , คุณจะแต่งตัวให้ตัวเองและเด็กของคุณอย่างไร , คุณจะมาให้ตรงเวลาไหม , หรือคุณมีเหตุสุดวิสัยบ่อยๆ , ระหว่างเข้าเฝ้าออกไปธุระข้างนอกก่อน แล้วค่อยกลับมาปิดงาน ที่กล่าวเป็นเพียงเรื่องเนื้อหนังภายนอก ถ้ายังทำไม่ได้ ไม่ต้องพูดถึงคำว่า นมัสการด้วยจิตวิญญาณและความจริง) ถ้าการเข้าเฝ้าในหลวง ไม่ถูกกระทำให้สมบูรณ์ โดยผู้เข้าเฝ้า มีความหมายสองอย่าง คือ การเข้าเฝ้าไม่เกิดขึ้นจริง หรือ ผู้นั้นไม่ได้เข้าเฝ้า

10) ถูกตีสอนโดยพระเจ้า (Are chastened by God)

สดุดี 94:12 ข้าแต่พระเจ้า คนที่พระองค์ทรงตีสอนนั้น ก็เป็นสุข คือ คนที่พระองค์ทรงสอนด้วยพระธรรมของพระองค์ Psalms 94:12 Blessed is the man whom thou chastenest, O LORD, and teachest him out of thy law;

คนบางคน ไม่คิดว่าตนเองถูกพระเจ้าตีสอน กลับไปโทษมาร วิญญาณชั่ว กรณีเช่นนี้ ตัวเขาเองจะไม่ดีขึ้นเลย

ข้าพเจ้าเองคิดว่าข้าพเจ้าถูกพระเจ้าตีสอนมาก จนข้าพเจ้ากลัวราน (กลัวมาก) ครั้งหนึ่งข้าพเจ้าเคยจะคิดไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนเก่า ที่มีอำนาจทางการเมือง ใช้เวลาอยู่หลายวัน เรื่องที่ไม่น่าเป็นไปได้ก็เกิดขึ้นกับชีวิตของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจึงต้องหยุดความพยายามในการติดต่อคนนั้น ข้าพเจ้าใคร่ครวญแล้วคิดว่า พระเจ้าไม่ทรงอนุญาติ และทรงบอกข้าพเจ้าและตีสอนด้วยความรุนแรง บางครั้งก็อยากจะพูดประโยคเดียวกับที่พระเยซูตรัสก่อนสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน

11) กลัวพระเจ้า (Fear God)

สดุดี 112:1 จงสรรเสริญพระเจ้าเถิด คนที่เกรงกลัวพระเจ้าก็เป็นสุข คือ ผู้ปีติยินดีเป็นอันมากในพระบัญญัติของพระองค์ Psalms 112:1 Praise ye the LORD. Blessed is the man that feareth the LORD, that delighteth greatly in his commandments.

สดุดี 128:1 ทุกคนที่เกรงกลัวพระเจ้า ก็เป็นสุข คือ ผู้ที่ดำเนินในมรรคาของพระองค์ Psalms 128:1 Blessed is every one that feareth the LORD; that walketh in his ways.

ใช้คำว่า กลัวพระเจ้า ไม่ใช่ยำเกรง หรือ เกรงใจ ใช้คำว่า Fear ไม่ใช่คำว่า Afraid of

บางคนได้ยินพระคัมภีร์ใหม่เขียนว่า พระองค์ทรงเป็นเพื่อน ก็เลยตีเสมอ แค่คำว่า ยำเกรง ยังไม่มี ไม่รู้จัก

12) ดำเนินชีวิตอย่างปราศจากตำหนิ (Live undefiled lives)

สดุดี 119:1 บรรดาผู้ที่ดีรอบคอบในทางของเขาก็เป็นสุข คือ ผู้ที่ดำเนินตามพระธรรมของพระเจ้า Psalms 119:1 Blessed are the undefiled in the way, who walk in the law of the LORD. (แปล พระพรจงมีแด่ ผู้ที่ดำเนินชีวิตอย่างปราศจากตำหนิ ตามทางของพระองค์)

นอกจากหมดความผิดความบาป เพราะขอทรงอภัยแล้ว ก็ต้องพยายามครองตนเอง ให้อย่ามีความผิดความบาป หรือแม้กระทั่งมลทิน บางคนปักใจเรื่องที่เปโตรถามพระเยซูมาก เรื่องนี้จำแม้น คือ เปโตรถามว่า จะต้องอภัยให้เขากี่ครั้ง พระเยซูตอบว่า 7 คูณ 70 ผู้เชื่อก็ได้ใจ คิดว่าทำผิดกับคนอื่นก็ได้ เขาก็ให้อภัย หรือ ทำผิดแล้ว มาขอพระเจ้าทรงอภัย พระเจ้าก็ต้องอภัยให้เสมอไป อ้อลืมเล่าให้ท่านฟังว่า ยอร์นให้เปโตรไปถามพระเยซูว่า จะอภัยให้เขากี่ครั้ง เปโตรไปถามแล้วกลับมาบอกว่า ทรงตอบว่า 7 คูณ 70 ครั้ง ข้าพเจ้าเล่านิทานต่อไปอีกนิดหนึ่งว่า ยอร์นจึงบอกให้เปโตรไปถามพระเยซูว่า ถ้าเขาทำผิดกับเรา ซ้ำเรื่องเดิม จะให้อภัยกี่ครั้ง

13) เชื่อฟังพระวจนะของพระเจ้า (Obey God's word)

สดุดี 119:2 ผู้ที่รักษาบรรดาพระโอวาทของพระองค์ก็เป็นสุข คือ ผู้ที่แสวงหาพระองค์ด้วยสุดใจ Psalms 119:2 Blessed are they that keep his testimonies, and that seek him with the whole heart.

จะเข้าใจมาก หรือ เข้าใจน้อย ก็ต้องทำตามไว้ก่อน ถ้าพ่อยกมือห้ามไว้ แต่ลูกดันเดินต่อ ตกหลุมเจ็บตัวก็ช่วยไม่ได้

14) ดำเนินชีวิตอย่างมีสติปัญญา (Walk in wisdom)

สุภาษิต 8:32 บุตรชายของเราเอ๋ย บัดนี้จงฟังเรา บรรดาผู้ที่รักษาทางของเราก็อยู่สุขสงบ Proverbs 8:32 Now therefore hearken unto me, O ye children: for blessed are they that keep my ways.

พระเจ้ากำหนดให้ไปอียิปห์ ไม่เอา จะไปบาบิโลน อย่างนี้ก็ต้องพินาศสถานเดียว

คริสเตียนหลายคน ในคริสตจักร มาให้ผู้รับใช้อธิษฐานถามพระเจ้า ในการดำเนินชีวิตหรือกิจกรรมบางเรื่อง เมื่อมีคำเผยพระวจนะมาแล้ว กลับไม่ทำตามคำนั้น อย่างนี้คนนั้นต้องพินาศสถานเดียว อ๋อ ไม่เชื่อเรื่องคำเผยฯ ก็ไม่ต้องมาอธิษฐานขอ อ๋อ เผยฯแล้วไม่เชื่อคำเผยฯ ก็ไม่ต้องมาขอ คนเช่นนี้ คำสาปแช่งของพระเจ้า จะรุมกินโต๊ะ

15) ได้ยินสติปัญญา (Hear wisdom)

สุภาษิต 8:34 ผู้ใดที่ฟังเรา ก็เป็นสุข คือ เฝ้าอยู่ที่ประตูรั้วของเราทุกวัน และคอยอยู่ข้างประตูบ้านของเรา Proverbs 8:34 Blessed is the man that heareth me, watching daily at my gates, waiting at the posts of my doors.

ถ้าคุณเทศนาสั่งสอนผิด ประชากรของพระเจ้าจะไม่ได้สติปัญญา , ถ้าคุณจูงให้ประชากรเชื่อพระคำบางส่วนเท่านั้น เช่น เชื่อทุกอย่าง แต่เรื่องเกี่ยวกับวิญญาณไม่เชื่อ ทั้งๆที่ให้พระคัมภีร์เขียนเกี่ยวกับเรื่องวิญญาณไว้ อย่างนี้ ผู้ฟังก็ไม่ได้รับสติปัญญา คุณเชื่อที่ข้าพเจ้าจะเล่านี้ไหม ถ้าผมเป็นผู้ทรงสติปัญญา ผมจะเฝ้าพูดกับลูกหลานผมบ่อยๆ และยิงคำถามเพื่อให้หลานตัวเล็ก หัดตอบ หัดใช้สมองหาคำมาพูด โตขึ้นมันจะฉลาด ส่วนใหญ่เห็นพ่อแม่พูดกับลูก ไม่มีสติปัญญาเลย ในทางตรงกันข้าม ถ้าผมเป็นผู้ทรงสติปัญญา แต่ไม่พูดกับลูกเลย มันโตขึ้น ยังไงก็โง่ ที่เปรียบเทียบนี้เข้าใจไหม

ดูพระคำภาษาอังกฤษ heareth me, daily at my gates, at the posts of my doors. เฝ้าอยู่หน้าประตูบ้านฉัน คอยฟังคำที่ฉันจะพูดออกมา

ถ้าคุณอยู่ในกลุ่มคนโง่ คุณจะโง่ตาม ถ้าคุณอยู่ในกลุ่มคนฉลาด คุณจะฉลาดตามเขา

คำว่า heareth me นี้ หมายรวมถึง คำเผยพระวจนะที่ออกมาจากปากของผู้เผยพระวจนะ หรือ ผู้พยากรณ์ด้วย (จริงอยู่ คำเผยพระวจนะ ต้องมีการวินิจฉัย) ถ้าคำเผยฯบอกว่า ภาคใต้ของไทยจะเกิดวิบัติ ให้อพยพ แล้วผ่านไปหลายปี เกิดซึนามิ ถ้าคุณเชื่อถ้อยคำ ก็ถือว่าคุณมีสติปัญญา ถ้าไม่เชื่อ ก็คิดเอาเอง ....

16) รอคอยพระเจ้า (Wait upon God)

อิสยาห์ 30:18 เพราะฉะนั้น พระเจ้าทรงคอยที่จะทรงพระกรุณาเจ้าทั้งหลาย เพราะฉะนั้น พระองค์จึงทรงลุกขึ้นเพื่อเมตตาเจ้า เพราะพระเจ้าเป็นพระเจ้าแห่งความยุติธรรม ผู้ที่คอยท่าพระองค์จะได้รับพระพร Isaiah 30:18 And therefore will the LORD wait, that he may be gracious unto you, and therefore will he be exalted, that he may have mercy upon you: for the LORD is a God of judgment: blessed are all they that wait for him.

รู้จักไหม รอคอยพระเจ้า อย่าล้ำหน้า เหมือนฟุตบอล อย่าล้ำเส้น รอ รอ คอย คอย พระเจ้า

ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์ทั้งหลายรอคอยพระกรุณาแห่งพระพรของพระองค์ เวลานั้นก็ใกล้เข้ามาแล้ว และ บัดนี้ก็ถึงแล้ว ขอทรงลุกขึ้น และ เทพระพรอันใหญ่โตและน่าครั่นคร้าม แก่ข้าพระองค์และครอบครัว สรรเสริญองค์พระบิดา พระบุตร พระวิญญาณบริสุทธิ์ กราบทูลในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า เอเมน