ปรนนิบัติพระเจ้า (Ministering to the Lord) ตอนที่ 1 (part 1)
สารบัญหลัก (Content)
 

 

เทศนาโดย อ.สุเมธ วันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2003

 
 
 
 

ปรนนิบัติ Minister หรือแปลว่า รัฐมนตรี (รับใช้ประชาชน) ภาษาอังกฤษอีกคำหนึ่งคือ Serve หมายถึง บริการ

ปรนนิบัติ แปลเป็นภาษาไทยง่ายๆว่า รับใช้ กินความกว้าง ความหมายรวมถึง นมัสการ (worship) , สรรเสริญ (praise) , ร้องเพลง , อธิษฐาน , เฝ้าเดี่ยว , อ่านพระคัมภีร์ , สอนพระคัมภีร์ , เทศนา , ทำงานในโบสถ์(สถานนมัสการ) , เล่นดนตรี , นำประชุม , ต้นเสียง

ลำดับการปรนนิบัติ

  • อันดับแรก ปรนนิบัติ พระเจ้า
  • อันดับสอง ปรนนิบัติ ธรรมิกชน
  • อันดับสาม ปรนนิบัติ โลก

ปฐม 24:26 โค้งคำนับและนมัสการพระเจ้า (ในพระคัมภีร์ภาษาไทยแปลว่า กราบลง) ทำความเคารพนั่นเอง

นมัสการที่ไหน , นมัสการใคร , นมัสการอย่างไร

ยน 4:19-24 นางทูลพระองค์ว่า "ท่านเจ้าค่ะ ดิฉันเห็นจริงแล้วว่า ท่านเป็นผู้เผยพระวจนะ ๒๐. บรรพบุรุษของพวกเรานมัสการที่ภูเขานี้ แต่พวกท่านว่าตำบลที่ควรนมัสการนั้น คือ เยรูซาเล็ม" ๒๑. พระเยซูตรัสกับนางว่า "หญิงเอ๋ย เชื่อเราเถิด คงมีวันหนึ่ง ที่พวกเจ้าจะมิได้ไหว้นมัสการพระบิดา เฉพาะที่ภูเขานี้ หรือที่เยรูซาเล็ม ๒๒. ซึ่งเจ้านมัสการนั้น เจ้าไม่รู้จัก ซึ่งพวกเรานมัสการเรารู้จัก เพราะความรอดนั้นมาจากพวกยิว ๒๓. แต่วาระนั้นใกล้เข้ามาแล้ว และบัดนี้ก็ถึงแล้ว คือเมื่อผู้ที่นมัสการอย่างถูกต้อง จะนมัสการพระบิดาด้วยจิตวิญญาณ และความจริง เพราะว่าพระบิดาทรงแสวงหาคนเช่นนั้น นมัสการพระองค์ ๒๔. พระเจ้าทรงเป็นพระวิญญาณ และผู้ที่นมัสการพระองค์ ต้องนมัสการด้วยจิตวิญญาณ และความจริง"

พระวจนะตอนนี้ พระเยซูตรัสบอกว่า ไม่ได้นมัสการที่ภูเขานี้ และ ไม่ได้นมัสการที่กรุงเยรูซาเล็ม นมัสการใคร คุณคงจะทราบ ถ้าคุณเพิ่งรู้จักพระเจ้าเพียงวันเดียว หรือ ไม่เคยศึกษาว่าพระเจ้าเป็นอย่างไร คุณก็จะนมัสการ ที่เขาเรียกกันว่า "พระเจ้า" รู้แค่นั้น แต่ซึ่งเรานมัสการเรารู้จักดี เพราะเราศึกษาหาความรู้และแสวงหาพระเจ้า ในฝ่ายวิญญาณด้วย นมัสการด้วยจิตวิญญาณ และความจริง คนที่ไม่เชื่อเรื่องวิญญาณ เขาจะอธิบายพระคัมภีร์ตอนนี้กันอย่างไร พระคัมภีร์ไม่ได้เขียนว่า จิตวิญญาณความจริง แต่มีคำว่า และ อาจเขียนใหม่ว่า นมัสการด้วยจิตวิญญาณ และ นมัสการพระเจ้าด้วยความจริง หาคำตอบเองว่า นมัสการพระเจ้าอย่างไร ถ้าเชื่อเรื่องวิญญาณ ก็จะตอบคำถามได้ว่า นมัสการที่ไหน พระเจ้าเป็นพระวิญญาณ ผู้ที่นมัสการพระองค์ ต้องนมัสการด้วยจิตวิญญาณและความจริง คำตอบคือ นมัสการในวิญญาณของท่าน แม้ว่าท่านนมัสการร้องเพลงสรรเสริญในคริสตจักร แต่คุณต้องนึกเสมอว่าคุณนมัสการพระเจ้าในวิญญาณของคุณ พระวิญญาณบริสุทธิ์ คือ พระเจ้า สถิตอยู่ในวิญญาณของคุณ

มาดูพระคำการปรนนิบัติพระเจ้าตั้งแต่สมัยเริ่มแรก

ก่อนยกข้อพระคำ ขอเล่าให้คริสเตียนใหม่ๆทราบก่อน อับราฮัม มีลูกชื่ออิสอัค อิสอัคมีลูกชื่อ ยาโคป ยาโคปมีลูก 12 คน จึงกลายเป็น 12 เผ่า มีลูกมีหลานมากมาย มาถึงสมัยโมเสส แล้วก็โยชูวา เมื่ออพยพออกมาจากอียิปห์ จนถึงแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์(คานาอัน) ที่พระเจ้าประทานให้ เมื่อยึดแผ่นดินได้แล้ว ก็แบ่งที่ดิน (ตามที่พระเจ้ากำหนด) ให้ 11 เผ่า ถือครอง ส่วนอีก 1 เผ่า คือ เลวี ไม่ได้ให้ที่ดินทำมาหากิน แต่ให้มีรายได้จาก ทศางท์ ที่ 11 เผ่าถวายแด่พระเจ้า (ทศางค์ หมายถึง สิบลด หรือ หนึ่งในสิบ ของรายได้)

ฉธบ 10:8 ครั้งนั้น พระเจ้าได้แยกเผ่าเลวี ให้หามหีบพันธสัญญาแห่งพระเจ้า ให้เฝ้าพระเจ้าเพื่อปรนนิบัติพระองค์ และให้อำนวยพรในพระนามของพระองค์ จนถึงทุกวันนี้

พวกเขามองไม่เห็นพระเจ้า แต่พระเจ้าให้เฝ้าปรนนิบัติพระองค์ คอยอวยพรคนอื่น ในนามของพระเจ้า

ฉธบ 10:8 เหตุฉะนี้ คนเลวีจึงหามีส่วนแบ่ง หรือมรดกกับพวกพี่น้องของตนไม่ พระเจ้าทรงเป็นส่วนมรดกของเขา ดังที่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทั้งหลายตรัสแก่เขานั้น

พระเจ้าที่คุณมองไม่เห็น จับต้องไม่ได้ เป็นมรดกของคุณ คุณเอาไหม คนสมัยนี้เมื่อรับเชื่อได้สักพัก ก็อยากเป็นผู้รับใช้(พระเจ้า) เล่าให้ฟังเพิ่มเติม สำหรับผู้ที่ยังไม่ทราบ ตอนแรกๆ เลวีก็ได้รับรายได้ คือทศางก์ พออยู่ได้ แต่พอผ่านมาถึงสมัยหนึ่ง พวกเผ่าอื่นๆ หรือประชากรพระเจ้านั่นเอง ไม่ถวายทศางก์ หรือถวายน้อย ถวายทศางก์ไม่เต็ม ทำให้คนเลวีไม่มีรายได้ ต้องกระจัดกระจายออกจากการเฝ้าปรนนิบัติพระเจ้า ออกไปทำมาหากิน (อ่านในเยรามีย์) เพราะว่าจะอดตาย (เหมือนคริสเตียนสมัยนี้) ที่ดินก็ไม่มีกับเขา ต้องไปเช่าที่ดินคนอื่น กฏหมายของพระเจ้าสมัยนั้น กำหนดให้ 11 เผ่า ถือครองที่ดิน แบบตลอดไป นิรันดร์กาล ไม่มีการขายขาด ในพระคัมภีร์อ่านจะเขียนว่า มีการขายที่ดิน มีการลงนามในสัญญาพร้อมพยาน แต่ที่จริงไม่ใช่ คุณต้องอ่านพระคัมภีร์ฉบับคิงส์เจมส์ประกอบ ที่จริงเป็นการขายสิทธิ์ชั่วคราว หรือ อาจเรียกว่า จำนอง เมื่อครบ 50 ปี ต้องคืนที่ดินนั้นให้กับเจ้าของเดิม หรือทายาท เพราะฉะนั้น เลวี ไม่มีทางมีที่ดินกับเขาตลอดไป ก็ไม่มีที่ทำกิน เอ้อ ถามคุณหน่อย ถ้าคุณรู้อย่างนี้แล้ว ถ้าคุณเป็นเลวีในสมัยนั้น เขาแบ่งที่ดินให้ 11 เผ่า แล้วบอกว่าคุณไม่มีที่ดิน มีแต่พระเจ้าเป็นมรดกให้คุณ คุณจะเอาไหม และถ้าคุณไม่เอา แล้วคุณบอกโยชูวาว่า ผมขอที่ดินก็แล้วกัน แล้วโยชูวา จะยอมคุณไหมนี่

1 ซมอ 2:18 แต่ซามูเอลปรนนิบัติอยู่ต่อพระพักตร์พระเจ้า เป็นเด็กคนที่คาดเอวด้วยเอโฟดผ้าป่าน

1 ซมอ 3:1 ฝ่ายกุมารซามูเอลปรนนิบัติพระเจ้าอยู่ต่อหน้าเอลี ในสมัยนั้นพระดำรัสของพระเจ้ามีมาแต่น้อย ไม่มีนิมิตบ่อยนัก

เราทั้งหลาย ปรนนิบัติพระเจ้า ต่อหน้ามนุษย์

ซามูเอล เป็นผู้วินิจฉัย ต่อจากโยชูวา ไม่ใช่เอลี และเป็นผู้วินิจฉัยคนสุดท้าย ผู้รับใช้ถัดๆมา เป็นแต่เพียง ผู้พยากรณ์ หรือ ผู้เผยพระวจนะ


ขออธิษฐานเผื่อท่านทั้งหลาย โดยใช้แบบอย่างในพระคัมภีร์ เพื่อเป็นการศึกษาของท่านทั้งหลายด้วย ถ้อยคำนั้นจะเปลี่ยนแปลงไปบ้าง (ที่เป็นสีน้ำเงิน คือ คำที่เพิ่มเติม หรือ คำที่เปลี่ยนแปลง)

สดด 19:1 ข้าแต่พระเจ้า ฟ้าสวรรค์ประกาศพระสิริของพระองค์ และภาคพื้นฟ้าสำแดงพระหัตถกิจของพระองค์ (สดด 19:13-14) ขอทรงยับยั้งข้าพระองค์ให้พ้นจากบาป โดยประมาทนั้นด้วยเถิด ขออย่าให้มันมีอำนาจเหนือข้าพระองค์เลย แล้วข้าพระองค์จะไร้ตำหนิ และพ้นจากความผิดจากการทรยศที่ยิ่งใหญ่นั้น ข้าแต่พระเจ้า พระศิลา และพระผู้ไถ่ของข้าพระองค์ ขอให้ถ้อยคำจากปากของข้าพระองค์ และการรำพึงภาวนาในจิตใจ เป็นที่โปรดปรานในสายพระเนตรของพระองค์เถิด (สดด 20:1-2) ขอพระเจ้าทรงตอบข้าพระองค์ในวันยากลำบาก พระนามของพระองค์พิทักษ์รักษาข้าพระองค์ ขอพระองค์ทรงให้ความช่วยเหลือมาจากสถานนมัสการ และให้ความสนับสนุนข้าพระองค์ (สดด 20:4-6) ขอทรงประสิทธิ์ประสาทตามใจปรารถนาของข้าพระองค์ ด้วย และให้โครงการที่ข้าพระองค์คิดนั้นสำเร็จทั้งสิ้น เพื่อข้าพระองค์ทั้งหลายจะได้โห่ร้องเนื่องด้วยชัยชนะของข้าพระองค์ และยกธงขึ้นในพระนามพระเจ้าของข้าพระองค์ ขอพระเจ้าทรงโปรดให้คำทูลขอทั้งสิ้นของข้าพระองค์ สำเร็จเถิด บัดนี้ ข้าพระองค์ทราบว่าพระเจ้าจะทรงช่วยผู้ที่พระองค์ทรงเจิมไว้ พระองค์จะทรงตอบข้าพระองค์จากฟ้าสวรรค์ อันบริสุทธิ์ของพระองค์ และโดยชัยชนะอันทรงอานุภาพด้วยพระหัตถ์ขวาของพระองค์ (สดด 21:1-7) ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์จะเปรมปรีดิ์ในพระกำลังของพระองค์ ข้าพระองค์จะปีติยินดีในความช่วยเหลือของพระองค์ พระเจ้าทรงประสิทธิ์ประสาทตามใจปรารถนาของข้าพระองค์ และมิได้ทรงยับยั้งสิ่งที่ริมฝีปากข้าพระองค์ทูลขอ เพราะพระเจ้าทรงอำนวยพรดีแก่ข้าพระองค์ พระองค์ทรงสวมมงกุฎทองนพคุณบนศีรษะของข้าพระองค์ ข้าพระองค์ทูลขอชีวิต และพระองค์ก็ประทาน ชีวิตยืนนานเป็นนิจกาล โดยความอุปถัมภ์ และศักดิ์ศรีของข้าพระองค์จึงใหญ่ยิ่ง พระเจ้าทรงประดับข้าพระองค์ด้วยยศศักดิ์ และความสง่าโอ่อ่าตระการ พระเจ้าข้า พระเจ้าทรงโปรดให้ข้าพระองค์รับพระพรเป็นนิตย์ และทรงกระทำให้ข้าพระองค์ยินดีปรีดาต่อเบื้องพระพักตร์ของพระองค์ เพราะข้าพระองค์วางใจในพระเจ้า ด้วยความรักมั่นคงของพระองค์ผู้สูงสุด ข้าพระองค์จะไม่หวั่นไหวเลย สรรเสริญพระบิดา พระบุตร พระวิญญาณบริสุทธิ์ ในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน