พระวิญญาณบริสุทธิ์ (The Holy Spirit) ตอนที่ 2
สารบัญหลัก (Content)
 

 

เทศนาโดย อ.สุเมธ วันอาทิตย์ที่ 27 มิถุนายน 2004

 
 
 
 

มีคำถามเป็นการบ้าน 2 ข้อ

สมัยไวกิ้งเมื่อก่อนนี้ หมอผีบอกพระราชาว่า เขามีเครื่องมือที่สามารถบอกทิศทางในการเดินเรือได้ พระราชาไม่เชื่อ เวลาต่อมา เกิดสงครามขึ้น หมอผีได้พาเจ้าชายลงเรือหนีออกมา หลงทางอยู่ในหนองน้ำที่มีหมอกลงจัด หมอผี(ผู้หญิง) ได้เอาเข็มเย็บผ้าที่เป็นแม่เหล็กอ่อนๆ มาแทงหนีบอยู่กับใบไม้ใบหนึ่ง แล้วเอาใบไม้ลอยน้ำ เข็มก็ชี้ไปทางเหนือ หมอผีก็รู้ทิศทางว่าตัวเองจะพายเรือไปทางไหน ปัจจุบันเรารู้กันว่า มันคือเข็มทิศนี่เอง แต่บางคนในสมัยก็ไม่เชื่อ เช่นเดียวกันคนในปัจจุบัน ก็ไม่เชื่อบางอย่างกำลังจะบอกกับพวกเขา

คำถามข้อแรกในคือ สนามแม่เหล็กโลก เกิดขึ้นได้อย่างไร หรือ เกิดขึ้นจากอะไร

คำถามนี้ เป็นคำถามวิทยาศาสตร์ล้วนๆ ไม่ต้องหาในพระคัมภีร์ ให้ไปถามพวกด๊อกเตอร์ดู ที่ถามเพราะเกี่ยวกับเรื่องความเชื่อ ความไม่เชื่อ เมื่อข้าพเจ้าจะเฉลยคำตอบในครั้งหน้า บางคนก็ไม่เชื่อคำตอบนี้

คำถามข้อที่ 2 คือ การบัพติศมามีกี่อย่าง หรือ กี่แบบ , อะไรบ้าง

คำถามข้อนี้ เกี่ยวกับกับพระคัมภีร์และคำเทศนาโดยตรงในวันนี้ ความเชื่อที่แตกต่างกัน , ความรู้ความเข้าใจที่แตกต่างกัน ทำให้คำตอบของแต่คนแตกต่างกัน

พระวิญญาณบริสุทธิ์ ตอนที่ 1 ครั้งก่อน ได้กล่าวถึง ตรีเอกานุภาพ พระเจ้า 3 ใน 1 เดียว ไม่ใช่พระเจ้ามี 3 , ไม่ใช่พระเจ้าประกอบด้วย 3 ได้กล่าวถึง พระราชกิจของพระบิดา พระราชกิจของพระเยซูคริสต์ และเมื่อพระเยซูฟื้นคืนพระชนม์ อยู่กับสาวกอีก 40 วัน ก็เสด็จสู่สวรรค์ และ พระวิญญาณบริสุทธิ์ได้เสด็จลงมาเริ่มต้นประกอบพระราชกิจในวันเพนเตครอส (Pentecost) พระราชกิจของพระวิญญาณบริสุทธิ์ จะเสร็จสิ้น ในวันที่พระเยซูคริสต์เสด็จมาครั้งที่ 2 เฟสแรก (หรือตอนช่วงแรก)

พระวิญญาณบริสุทธิ์ ตอนที่ 2

การบัพติศมาในพระวิญญาณบริสุทธิ์ ข้าพเจ้าจะไม่ใช้คำว่า ด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ หรือ คำว่า โดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ เพราะจะมีความหมาย หรือ ทำให้เข้าใจที่ไม่ตรงกับความจริงนัก คำว่า ด้วย เราอาจเข้าใจว่า พระวิญญาณบริสุทธิ์ มาเป็นผู้ประกอบพิธี คำว่า โดย เราอาจเข้าใจว่า พระวิญญาณบริสุทธิ์ เป็นผู้กระทำพิธี

จอห์นบัพติสโต หรือ จอห์นบัพติศมา เป็นผู้เอ่ยเรื่องบัพติศมาเป็นคนแรกในพระคัมภีร์ ดู มธ 3:11 , มก 1:8 , ลก 3:16 เราให้เจ้าทั้งหลายรับบัพติศมาด้วยน้ำ แสดงว่ากลับใจใหม่ก็จริง แต่พระองค์ผู้จะมาภายหลังเรา ทรงมีอิทธิฤทธิ์ยิ่งกว่าเราอีก ซึ่งเราไม่คู่ควรแม้จะถอดฉลองพระบาทพระองค์ พระองค์จะทรงให้เจ้าทั้งหลาย รับบัพติศมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์และด้วยไฟ (I indeed baptize you with water unto repentance. but he that cometh after me is mightier than I, whose shoes I am not worthy to bear: he shall baptize you with the Holy Ghost, and with fire)

พระเยซูทรงตรัสใน กจ 1:4-5 และ กจ 11:16 'ยอห์นได้ให้รับบัพติศมาด้วยน้ำ แต่ท่านทั้งหลายจะรับบัพติศมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ (John indeed baptized with water; but ye shall be baptized with the Holy Ghost.)

คำว่า บัพติศมา (baptize) เป็นภาษากรีก ที่ไม่มีคำแปล แต่มีความหมายว่า จุ่ม , จม , รวม (immerse) เราเข้าใจความหมายอีกว่า หมายถึงการชำระ

1 คร 12:13 For by one Spirit are we all baptized into one body เราทั้งหลายได้รับบัพติศมาโดยพระวิญญาณองค์เดียวเข้าเป็นกายเดียวกัน และพระวิญญาณองค์เดียวนั้นซาบซ่านอยู่ (เข้าเป็นกายวิญญาณหนึ่งเดียว)

กท 3:27 เพราะเหตุว่า คนที่รับบัพติศมาเข้าร่วมในพระคริสต์แล้ว ก็จะสวมชีวิตพระคริสต์

การบัพติศมาในน้ำ หรือ ด้วยน้ำ เป็นการบัพติศมาทางกายภาพ เราถูกฝังร่วมกับพระคริสต์ในน้ำ ตัวเก่าของเราถูกตรึง และถูกฝังแล้ว และขึ้นมาจากน้ำ เป็นการฟื้นขึ้นมาจากความตาย

รม 6:3-4 ท่านไม่รู้หรือว่า เราทั้งหลายที่ได้รับบัพติศมาเข้าในพระเยซูคริสต์ ก็ได้รับบัพติศมานั้น เข้าในความตายของพระองค์ ๔. เหตุฉะนั้น เราจึงถูกฝังไว้กับพระองค์แล้ว โดยการรับบัพติศมาเข้าส่วนในการตายนั้น เพื่อว่าเมื่อพระคริสต์ได้ทรงถูกชุบให้เป็นขึ้นมาจากความตาย โดยเดชพระสิริของพระบิดาแล้ว เราก็จะได้ดำเนินชีวิตใหม่ด้วยเหมือนกัน

บัพติศมาในพระวิญญาณบริสุทธิ์ เป็นการบัพติศมาทางวิญญาณ

มนุษย์คนหนึ่ง จะเป็นส่วนหนึ่งในพระกายของพระคริสต์ ก็ต่อเมื่อเขาได้บังเกิดใหม่

การได้บังเกิดใหม่ เมื่อมนุษย์ผู้นั้นรับเชื่อ และ บัพติศมาในน้ำ นี่คือ ได้รับความรอด

รม 8:9 ผู้ใดไม่มีพระวิญญาณของพระคริสต์ ผู้นั้นก็ไม่เป็นของพระองค์

มนุษย์จะได้รับการไถ่อย่างแท้จริง จากอำนาจของซาตาน ก็ต่อเมื่อ พระเจ้าได้ใส่ชีวิตของพระองค์ในมนุษย์นั้นๆแล้ว

วันเพนเตครอส

กจ 2:2 ในทันใดนั้น มีเสียงมาจากฟ้า เหมือนเสียงพายุกล้าสั่นก้อง(บรรจุเต็ม)ทั่วตึกที่เขานั่งอยู่นั้น (And suddenly there came a sound from heaven as of a rushing mighty wind, and it filled all the house where they were sitting.) ข้าพเจ้าเติมคำว่า บรรจุเต็ม เข้าไปในพระคัมภีร์ภาษาไทย หมายถึง พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงบรรจุพระองค์เองเต็มอาคารนั้น พวกสาวกจมอยู่ในพระวิญญาณบริสุทธิ์ หรือ บัพติศมาในพระวิญญาณบริสุทธิ์ เป็นการบังเกิดใหม่ 120 คน ณ วันนั้น

เป็นการประกอบด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ , เป็นการถูกบรรจุด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ , เป็นการดำรงอยู่(สถิตอยู่)ของพระวิญญาณบริสุทธิ์

เราจะรับพระวิญญาณบริสุทธิ์ หรือ บัพติศมาในพระวิญญาณบริสุทธิ์ ได้อย่างไร

กจ 2:38 จงกลับใจใหม่ และรับบัพติศมา ในพระนามแห่งพระเยซูคริสต์สิ้นทุกคน เพื่อพระเจ้าจะทรงยกความผิดบาปของท่านเสีย แล้วท่านจะได้รับพระราชทานพระวิญญาณบริสุทธิ์ (Repent, and be baptized every one of you in the name of Jesus Christ for the remission of sins, and ye shall receive the gift of the Holy Ghost.)

มีคำว่า บัพติศมา ในพระนามแห่งพระเยซูคริสต์ และมีคำว่า รับพระราชทานพระวิญญาณบริสุทธิ์ ดังนั้น การบัพติศมาในพระนามแห่งพระเยซูคริสต์ กับ การบัพติศมาในพระวิญญาณบริสุทธิ์ น่าจะเป็นคนละอย่างกัน

กจ 8:14-17 เมื่อพวกอัครทูตซึ่งอยู่ในกรุงเยรูซาเล็ม ได้ยินว่าชาวสะมาเรียได้รับพระวจนะของพระเจ้าแล้ว จึงให้เปโตรกับยอห์นไปหาเขา ๑๕. ครั้นเปโตรกับยอห์นไปถึงก็อธิษฐานเผื่อเขา เพื่อให้เขาได้รับพระวิญญาณบริสุทธิ์ ๑๖. ด้วยว่า พระวิญญาณบริสุทธิ์ยังไม่ได้เสด็จลงมาสถิตกับผู้ใด เป็นแต่ได้รับบัพติศมาในพระนามแห่งพระเยซูเจ้าเท่านั้น ๑๗. เปโตรกับยอห์นจึงวางมือบนเขา แล้วเขาทั้งหลายก็ได้รับพระวิญญาณบริสุทธิ์

เมื่อคนต่างชาติ หรือ คนต่างด้าว (อย่างเราคนไทยก็เป็นคนต่างด้าว) รับเชื่อแล้ว ผู้รับใช้ก็วางมือให้เขารับบัพติศมาในพระวิญญาณบริสุทธิ์ พระคำตอนนี้ ไม่ได้บอกว่า เขาต้องบัพติศมาในน้ำมาก่อน จึงจะบัพติศมาในพระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ บางคริสตจักรก็ไม่ยอม บัพติศมาในพระวิญญาณบริสุทธิ์ ให้ ถ้ายังไม่ได้รับบัพติศมาในน้ำ อย่างคริสตจักรแรกๆที่ข้าพเจ้าเคยอยู่ ก็ไม่ยอมทำให้ คิดว่าเป็นความเชื่อที่ผิดแน่นอน และให้สังเกตในข้อที่ 16 มีประโยคว่า "เป็นแต่ได้รับบัพติศมาในพระนามแห่งพระเยซูเจ้าเท่านั้น" ดังนั้นยืนยันจาก กจ 2:38 ข้างบน การบัพติศมาในพระนามแห่งพระเยซูคริสต์ กับ การบัพติศมาในพระวิญญาณบริสุทธิ์ น่าจะเป็นคนละอย่างกัน แน่นอน การบัพติศมาในพระนามแห่งพระเยซูเจ้า จึงควรเป็น การรับเชื่อนั่นเอง

กท 3:2 ข้าพเจ้าใคร่รู้ข้อเดียวจากท่านว่า ท่านได้รับพระวิญญาณโดยการประพฤติตามธรรมบัญญัติหรือ หรือได้รับโดยการฟังด้วยความเชื่อ

คงไม่ใช่ว่า ท่านรู้พระคัมภีร์มาก แล้วจะรับบัพติศมาในพระวิญญาณบริสุทธิ์ ได้สำเร็จ ท่านจะรับพระวิญญาณบริสุทธิ์ หรือ บัพติศมาในพระวิญญาณบริสุทธิ์ ได้ด้วยความเชื่อ

และไม่มีข้อพระคำสนับสนุนว่า ได้รับพระวิญญาณบริสุทธิ์แล้ว จะต้องพูดภาษาแปลกๆ

1 คร 12:30 ทุกคนได้รับของประทานให้รักษาโรคหรือ ทุกคนพูดภาษาแปลกๆ หรือ ทุกคนแปลได้หรือ

บางคริสตจักร บังคับว่า รับบัพติศมาในพระวิญญาณบริสุทธิ์แล้ว ต้องพูดภาษาแปลกๆ ถ้าไม่พูด แสดงว่า ยังไม่ได้รับ หรือ รับไม่ได้ หรือ ยังบัพติศมาไม่สำเร็จ ความเชื่อนี้ก็ ผิด

1 คร 14:22 เหตุฉะนั้น การพูดภาษาแปลกๆ จึงไม่เป็นหมายสำคัญแก่คนที่เชื่อ แต่เป็นนิมิตแก่คนที่ไม่เชื่อ แต่การเผยพระวจนะนั้น ไม่ใช่สำหรับคนที่ไม่เชื่อ แต่สำหรับคนที่เชื่อแล้ว (Wherefore tongues are for a sign, not to them that believe, but to them that believe not: but prophesying serveth not for them that believe not, but for them which believe.)

บางคนคิดว่า ขณะที่เขากำลังรับบัพติศมาในพระวิญญาณบริสุทธิ์ พระเจ้าจะมาเป็นคนขยับปากของเขา ให้พูดภาษาแปลกๆ เขาปิดปากแน่น อย่างนี้ รออีก 100 ปี ก็พูดไม่ได้ และคนอื่นก็บอกว่า ยังไม่มีพระวิญญาณ อย่าเชื่อพวกเขา เมื่อท่านเชื่อว่า ท่านบัพติศมาแล้วจะได้รับพระวิญญาณบริสุทธิ์ ท่านก็ได้รับแน่นอน

อฟ 2:8 ด้วยว่า ซึ่งท่านทั้งหลายรอดนั้น ก็รอดโดยพระคุณเพราะความเชื่อ และมิใช่โดยตัวท่านทั้งหลายกระทำเอง แต่พระเจ้าทรงประทานให้

เราบังเกิดใหม่ โดยความเชื่อ เรารับพระวิญญาณบริสุทธิ์ โดยความเชื่อ

ไม่ใช่ตัวเองต้องรู้สึกอย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่ใช่ตัวต้องสั่น ไม่จำเป็นต้องหัวใจเต้นเร็ว ไม่ใช่ด้วยฤทธิ์เดช ไม่ใช่ต้องมีแสง ไม่ใช่ต้องมีการแผ่นดินสะเทือน ไม่ใช่ด้วยเสียงอธิษฐานวางมืออันดังสนั่น ไม่ใช่ด้วยผู้รับใช้ยิ่งใหญ่ ท่านรับพระวิญญาณบริสุทธิ์ โดยความเชื่อ