ตาย
(Death)
|
||
|
||
เทศนาโดย อ.สุเมธ วันอาทิตย์ที่ 12 กันยายน 2004 |
||
|
||
ตาย มี 3 แบบ (3 kinds of death) เรื่องต่อไปนี้นักปรัชญาฟังแล้วก็จะบอกว่า ไม่ได้ความ , นักศาสนศาสตร์ หรือ ผู้เทศนา หรือ ผู้เชื่อฟังแล้ว ก็อาจจะบอกว่า เทศน์ผิด , แต่เรื่องนี้เป็นจริง ตามพระคัมภีร์ อ่าน มธ 8:14-22
พอพระองค์จับมือนางก็หาย ยังไม่ได้อธิษฐาน แต่ก็ได้หมายความว่า ผู้เชื่อทุกคนทำได้ ผู้ป่วยเข้ามานั่งในคริสตจักร ก็อาจจะหายโรคได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นสูตรเสมอไปว่า ต้องวางมืออธิษฐาน ผู้เชื่อ รวมถึงธรรมาจารย์ และ สาวกหรือศิษย์ เป็นการอัศจรรย์ เกิดความเชื่อ อยากจะติดตาม แสวงหาพระเจ้า แต่ก็พยายามมีข้อแม้กับตัวเอง เหมือนคริสเตียนปัจจุบันนี้ ศิษย์บอกว่าจะขอไปฝังพ่อก่อน พระคัมภีร์ที่มีคำอธิบายบางฉบับ อธิบายว่า ในวันนั้น ไม่มีคนติดตามพระเยซูไปเลย แม้แต่คนเดียว พระเยซูตอบว่า "ให้คนตายฝังคนตายเถิด" คนตายคำแรก หมายถึง คนตายฝ่ายวิญญาณ , คนตายคำที่ 2 หมายถึง คนตายฝ่ายร่างกายหรือเนื้อหนัง ตาย คนทั่วไป รู้แต่ว่ามีการตายอย่างเดียว คือร่างกายตาย ไม่มีชีวิตแล้ว พืชตาย คือพืชไม่มีชีวิตแล้ว ก้อนหินใช้คำว่าตายไม่ได้ แต่คำว่า ตาย ในพระคัมภีร์ หมายถึง การแยกออก 1.ตายจากร่างกาย (Physical Death) ยก 2:26 For as the body without spirit is dead (ร่างกายที่ปราศจากวิญญาณ คือ ตาย) เป็นการแยกตัวจริง กับ ร่างกาย ตัวจริงของเราคือวิญญาณของเรา 2.ตายฝ่ายวิญญาณ (Spiritual Death) เป็นการแยกจากพระเจ้าเพราะบาป
3.ตายนิรันดร์ หรือ ตายครั้งที่สอง (Eternal death or Second death) เป็นการแยกจากพระเจ้าครั้งที่สอง และ อย่างนิรันดร์ และ อยู่ในบึงไฟ (the second and eternal separation from Gop in the lake of fire) เขาตายครั้งที่ 2 เพราะว่าเขายังคงเลือกที่จะแยกจากพระเจ้าในการบาป เราเรียกว่า การตายครั้งที่ 2 (second death) หรือ แยกจากพระเจ้าครั้งที่ 2
ขอบพระคุณพระเจ้า ที่ทรงเรียกให้เราเข้ามาเข้าส่วนกับพระองค์ พ้นจากความตายฝ่ายวิญญาณ และ ความตายครั้งที่ 2 |
||
|