ทรงบัญชาให้ดำรงชีวิตอย่างบริสุทธิ์ 7 ประการ (Seven commands to live holy)
สารบัญหลัก (Content)
 

 

เทศนาโดย อ.สุเมธ วันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคม 2003

 
 
 
 

ความเชื่อแท้จะถูกพิสูจน์ได้ด้วยการทดลอง (1 ปต 1:7)

เพื่อการลองดูความเชื่อของท่าน อันประเสริฐยิ่งกว่าทองคำ ซึ่งแม้เสียไปได้ก็ยังถูกลองด้วยไฟ จะได้เป็นเหตุให้เกิดความสรรเสริญ เกิดศักดิ์ศรีและเกียรติ ในเวลาที่พระเยซูคริสต์จะเสด็จมาปรากฏ

เมื่อผู้ใดทนได้ จะได้รับบำเหน็จ เมื่อพระเยซูเสด็จมา ครั้งที่ 2 เฟส 2 (มธ 16:27) และจะทรงแต่งตั้ง (มธ 25:21,23)

(มธ 16:27) เหตุว่า เมื่อบุตรมนุษย์จะเสด็จมาด้วยพระสิริแห่งพระบิดา และพร้อมด้วยทูตสวรรค์ของพระองค์ เมื่อนั้น จะประทานบำเหน็จให้ทุกคนตามการกระทำของตน

(มธ 25:21,23) ๒๑. นายจึงตอบว่า 'ดีแล้ว เจ้าเป็นทาสดีและสัตย์ซื่อ เจ้าสัตย์ซื่อในของเล็กน้อย เราจะตั้งเจ้าให้ดูแลของมาก เจ้าจงปรีดีร่วมสุขกับนายของเจ้าเถิด' ๒๓. นายจึงตอบว่า 'ดีแล้ว เจ้าทาสดีและสัตย์ซื่อ เจ้าสัตย์ซื่อในของเล็กน้อย เราจะตั้งเจ้าให้ดูแลของมาก เจ้าจงปรีดีร่วมสุขกับนายของเจ้าเถิด'

เพราะฉะนั้นเจ้าจึงต้องบริสุทธิ์ เพราะเราบริสุทธิ์ (ลวต 11:45) เพราะเราคือพระเจ้าผู้นำเจ้าออกจากแผ่นดินอียิปต์ เพื่อเป็นพระเจ้าของเจ้า เพราะฉะนั้นเจ้าจึงต้องบริสุทธิ์ เพราะเราบริสุทธิ์"

ทรงบัญชาให้ดำรงชีวิตอย่างบริสุทธิ์ 7 ประการ

1. เตรียมใจ (คาดใจ) ไว้ ผจญการทดลอง (1 ปต 1:13) (Gird up the loins of your mind) เหตุฉะนั้น ท่านทั้งหลายจงเตรียมตัวเตรียมใจของท่านไว้ให้ดี และจงข่มใจ ตั้งความหวังให้เต็มเปี่ยมในพระคุณ คือ พระคุณซึ่งจะทรงโปรดประทานแก่ท่าน เมื่อพระเยซูคริสต์จะทรงสำแดงพระองค์

2. มีสติ (สุขุม , เยือกเย็น , มีเหตุผล) (Be sober) (1 ปต 1: 13) (sober-minded = มีสติ)

ให้ดำรงชีวิตอย่างมีสติและอย่างชอบธรรม (ทิตัส 2:12) สอนให้เราละทิ้งความอธรรม และโลกียตัณหา และดำเนินชีวิตในยุคนี้ อย่างมีสติปชัญญะ สัตย์ซื่อสุจริต และตามคลองธรรม

3. หวังใจให้ถึงที่สุด ในพระเมตตาและความรอดที่จะมาถึง เมื่อพระคริสต์เสด็จมา (Hope to the end) (1 ปต 1: 13)

for the grace that is to be brought unto you at the revelation of Jesus Christ (รม 8:24-25) ๒๔. เหตุว่า เราทั้งหลายรอด แม้เป็นเพียงความหวังใจ แต่ความหวังใจในสิ่งที่เราเห็นได้ หาเป็นความหวังใจไม่ ด้วยว่าใครเล่าจะยังหวังในสิ่งที่เขาเห็น ๒๕. แต่ถ้าเราทั้งหลายคอยหวังใจในสิ่งที่เรายังไม่ได้เห็น เราจึงมีความเพียรคอยสิ่งนั้น

4. อย่าประพฤติตามรูปแบบชีวิตแห่งบาป อย่างเมื่อก่อน (1 ปต 1:14) (อฟ 2:1-3)

โดยที่ท่านเป็นบุตรที่เชื่อฟัง ขออย่าได้ประพฤติตามกิเลสตัณหา อย่างที่เกิดจากความโง่เขลาของท่านในกาลก่อน (1 ปต 1:14)

๑. ท่านตายแล้วโดยการละเมิด และการบาป ๒. ครั้งเมื่อก่อน ท่านเคยประพฤติในการบาปนั้นตามวิถีของโลก ตามเจ้าแห่งยานอากาศ คือ วิญญาณที่ครอบครองอยู่ในคนทั้งหลายที่ไม่เชื่อฟัง ๓. เมื่อก่อนเราทั้งปวงเคยประพฤติเป็นพรรคพวกกับคนเหล่านั้น ที่ประพฤติตามตัณหาของเนื้อหนัง คือ กระทำตามความปรารถนาของเนื้อหนัง และความคิดในใจ ตามสันดานเรา จึงเป็นคนควรแก่พระอาชญา เหมือนอย่างคนอื่น (อฟ 2:1-3)

ท่านเป็นสิ่งที่ถูกสร้างใหม่แล้ว ท่านต้องดำรงชีวิตอย่างชีวิตใหม่ (2 คร 5:17) เหตุฉะนั้น ถ้าผู้ใดอยู่ในพระคริสต์ ผู้นั้นก็เป็นคนที่ถูกสร้างใหม่แล้ว สิ่งสารพัดที่เก่าๆ ก็ล่วงไป นี่แน่ะ กลายเป็นสิ่งใหม่ทั้งนั้น (You are new creatures and you must live new lives)

5. จงบริสุทธิ์ในทุกๆการกระทำของชีวิต (1 ปต 1:15) (Be holy in all your manner of life) จงเดินตามลักษณะของพระเจ้าทุกอย่าง (1 ปต 1:15) (You are to pattern after God in all things)

๑๕. แต่เพราะพระองค์ผู้ทรงเรียกท่านทั้งหลายนั้นบริสุทธิ์ ท่านทั้งหลายจงประพฤติให้บริสุทธิ์พร้อมทุกประการ ๑๖. ดังที่มีพระวจนะเขียนไว้แล้วว่า ท่านทั้งหลายจงเป็นคนบริสุทธิ์ เพราะเราบริสุทธิ์

6. จงประพฤติตนด้วยความยำเกรงพระเจ้า ตลอดเวลาที่ท่านดำรงอยู่ชั่วคราวในโลกนี้ (1 ปต 1:17) (Pass the time of your sojourning here in fear)

๑๗. และถ้าท่านอธิษฐานขอต่อพระองค์ เรียกพระองค์ว่า พระบิดา ผู้ทรงพิพากษาทุกคนตามการกระทำของเขา โดยไม่มีอคติ จงประพฤติตนด้วยความยำเกรงตลอดเวลาที่ท่านอยู่ในโลกนี้

เหตุฉะนั้นคนที่คิดว่าตัวเองมั่นคงดีแล้ว ก็จงระวังให้ดี กลัวว่าจะล้มลง ไม่มีการทดลองใดๆ เกิดขึ้นกับท่าน นอกเหนือจากการทดลองซึ่งเคยเกิดกับมนุษย์ทั้งหลาย (1 คร 10:12-13)

7. มีใจรักพวกพี่น้องอย่างจริงใจให้มาก ด้วยน้ำใสใจจริง (1 ปต 1:22) (love one another with a pure heart ferrently)

ที่ท่านทั้งหลาย ได้ชำระจิตใจของท่านให้บริสุทธิ์แล้ว ด้วยการเชื่อฟังความจริง จนมีใจรักพวกพี่น้องอย่างจริงใจ ท่านทั้งหลายจงรักกันให้มากด้วยน้ำใสใจจริง